เฟเดริโก ซานเตียโก บัลเบร์เด้ ดิเปต้า ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1998 ที่กรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย เขาชอบการเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยการเตะบอลเข้าประตูภายในบ้านของตัวเอง เขาฉายแววนักฟุตบอลในตัวของเขาตั้งแต่ยังเล็กๆ จนครอบครัวของเขาได้พาเจ้าหนูวัย 3 ขวบ เข้าไปสมัครเป็นนักเตะอะคาเดมี่ของสโมสรเยาวชนแห่งหนึ่งในท้องถิ่นอย่าง เอสตูเดียนเตสเดลาอูนิออน บัลเบร์เด้ได้รับการฝึกสอนอย่างดี จนพัฒนาการของเขาเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาอยู่กับสโมสรเอสตูเดียนเตสเดลาอูนิออนเป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรเปญญาโรล ในปี 2008 เป็นสโมสรอาชีพแรกของบัลเบร์เด้นั้นเอง เขาถูกเปญญาโรลขัดเกลาอยู่ 7 ปี ก่อนได้ถูกดันขึ้นขึ้นใหญ่ของสโมสรด้วยวัยเพียง 17 ปี ในปี 2015 เขาลงเล่นให้กับเปญญาโรลทั้งหมด 12 นัด มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ลีกอุรุกวัย เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนไปเตะตาแมวมอง เรอัล มาดริด ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว เฟเดริโก บัลเบร์เด้ ในราคาเพียง 4.5 ล้านปอนด์ ใน ปี 2016
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่
เฟเดริโก บัลเบร์เด้ ย้ายร่วมทัพราชันชุดขาวในวัยเพียง 18 ปี เขาถูกส่งให้ลงไปเล่นกับทีมเรอัล มาดริด กัสติยา (ทีมสำรอง) เป็นเวลา 1 ฤดูกาล ด้วยผลงานการลงเล่น 30 นัด ยิงได้ 3 ประตู จากนั้นถูกส่งไปให้เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ยืมตัวไปใช้อีก 1 ฤดูกาล ในปี 2017-18 เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 25 นัด ก่อนจะถูกเรียกตัวกลับร่วมทัพชุดใหญ่ของราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซีนาดีน ซีดาน ที่หวนคืนกลับมารับหน้าที่เป็นครั้งที่ 2
ก้าวแรกกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่และคว้าแชมป์มากมาย
ซีนาดีน ซีดานให้โอกาส บัลเบร์เด้ ได้ลงสนามเพื่อหาประสบการณ์มากขึ้น ในฤดูกาล 2018-19 เขาลงเล่นให้กับมาดริดไป 25 นัดฤดูกาลแรกของเขา แต่ต้องตกเป็นอะไหล่ให้กับ 3 กองกลางระดับโลก อย่าง โทนี โครส, ลูก้า โมดริชและคาเซมิโร เขาเป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกของทัพราชัน จากนั้นในฤดูกาล 2019-20 เขาถูกส่งลงสนามมากขึ้นกว่าเดิม ผลงานโดยรวมของเขายังคงรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามให้กับเรอัล มาดริด ไป 44 นัดในทุกรายการและยิงได้ 2 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา มาครองได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2020-21 เขายังคงได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ แต่ลดน้อยลงไป ถ้านับจากปีก่อน เขาลงเล่นให้กับเรอัล มาดริด ไป 33 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 3 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ไม่สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ได้เลยสักรายการเดียวในปีนี้ เป็นปีที่ล้มเหลวสุดๆ จนผู้จัดการทีมอย่าง ซีดานต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยการลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริดทันที ในฤดูกาล 2021-22 การมาของพี่แจ้ คาร์โล อันเชล็อตติ สุดยอดบรมกุนซือที่เข้ามารับช่วงต่อจากซีนาดีน ซีดาน นั้นคือจุดเริ่มต้นของฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงในปัจจุบันอันเช่ ให้โอกาส บัลเบร์เด้ ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง เขาลงสนามให้กับเรอัล มาดริดไป 46 นัด พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ทั้งแชมป์ลีกและยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก แต่เขาไม่สามารถทำประตูได้เลยแม้แต่ประตูเดียวในฤดูกาลนี้
การเดิมพันของสุดยอดกุนซือแห่งประวัติ
ก่อนฤดูกาล 2022-23 จะเริ่มขึ้น บรมกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ เห็นแสงสว่างในตัวของ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ โดย น้าอันเช่ ยอมเดิมพันกับอาชีพของตัวเอง ว่าในฤดูกาลนี้ บัลเบร์เด้ จะยิงประตูได้มากกว่า 10 ประตูอย่างแน่นอน ถ้ายิงไม่ถึง 10 ประตู เขายอมฉีกใบประกอบวิชาชีพการเป็นโค้ชของเขาทิ้งทันที โดยปกติบัลเบร์เด้ มีสถิติยิงได้เพียง 3 ประตูต่อ 1 ฤดูกาลเท่านั้น แต่ฟอร์มของเขาตอนนี้ บัลเบร์เด้ ยิงไปแล้ว 7 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการเล่นเล่นเพียง 17 นัดเท่านั้น ผลงานที่ร้อนเป็นไฟที่บัลเบร์เด้แสดงออกมามันบ้าคลั่งสะเหลือเกิน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงมากที่สุดในลาลีกา ณ เวลานี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เฟเดริโก บัลเบร์เด้ จะยิงได้กี่ประตูในฤดูกาลนี้และจะนำความสำเร็จมาให้กับราชันชุดขาวได้หรือไม่ คงต้องลุ้นกันต่อไป
ทีมชาติ
ในนามทีมชาติของ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ ถูกเรียกติดทีมชาติอุรุกวัยตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยลงเล่นรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เขาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตามรุ่นอายุที่ลงเล่น ก่อนจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในปี 2017 ด้วยวัย 19 ปี จากนั้นใน 2019 บัลเบร์เด้เป็น 1 ในขุนพลลุยศึกโคปา อเมริกา 2019 ผลงานของเขาในทีมชาติชุดใหญ่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อุรุกวัยตกรอบ 8 ทีม สุดท้ายจากการแพ้การดวลลูกจุดโทษให้กับเปรูไป 5-4 จากการเสมอในเวลาไป 0-0 ถัดมาอีก 2 ปี ในศึกโคปา อเมริกา 2021 บัลเบร์เด้ ต้องช้ำใจในรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง หลังแพ้การดวลจุดโทษให้กับโคลอมเบีย 4-2 จากการเสมอในเวลา 0-0 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย โดยในปีนี้ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ คือคีย์แมน คนสำคัญในการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ที่ใหญ่ที่สุดในนามทีมชาติ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เขาจะสร้างผลงานพาทีมชาติอุรุกวัย ไปไกลถึงแชมป์ได้หรือไม่ คงต้องติดตามลุ้นเชียร์กันในฟุตบอลโลก 2022
ความสำเร็จสโมสรและทีมชาติ
เปญญาโรล
อุรุกวัย พรีเมียร์ดิวิชั่น : 2015–2016
เรอัล มาดริด
ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2018
ลาลีกา ลีก : 2019–2020 , 2021–2022
สแปนิช ซูเปอร์คัพ : 2020 , 2022
ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก : 2021 – 2022
ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2022
ความสำเร็จส่วนตัว
MVP Spanish Super Cup Final : 2020
เกร็ดความรู้เล็กๆ ความใฝ่ฝันของเฟเดริโก บัลเบร์เด้
เฟเดริโก บัลเบร์เด้ วาดฝันเอาไว้ว่าเขาจะเป็นนักเตะระดับโลกให้ได้ เขาตั้งเป้าการคว้ารางวัลส่วนตัวที่ทุกคนใฝ่ฝันอย่างรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งปรากฏภาพที่ตัวเขาจ้องมองรางวัลบัลลงดอร์ของ คาริม เบนเซมา รุ่นพี่ในสโมสรเรอัล มาดริดอย่างจริงจัง โดยเขามีความมุ่งมั่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มีความขยันในการฝึกซ้อม มีเป้าหมายที่ชัดเจน เขาเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ จนนำมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ถ้าเขานำความสำเร็จมาให้กับทีมชาติอุรุกวัยในฟุตบอลโลก 2022 และพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลีกและยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้ ความฝันที่จะคว้า รางวัลบัลลงดอร์คงไม่หนีไปไหนแน่นอน แต่เส้นทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาต้องมีคู่แข่งมากมาย เพราะความใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคนคือรางวัลบัลลงดอร์ เด็กหนุ่มชาวอุรุกวัยจะสามารถพิชิตความฝันเขาได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป